ข้าวต้มด่างถือเป็นขนมพื้นบ้านที่เราคุ้นเคย ถ้าถามว่านอกจากทานเล่นเปล่าๆ ยังชอบไปจิ้มกับนมข้นหวาน จิ้มน้ำตาล ใส่หวานเย็น ล้วนแล้วแต่อร่อยเมื่อช่วงเด็กๆ แม้ปัจจุบันก็ยังอยากทานกันอยู่
แถบอีสานใต้ของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์มีชุมชนหนึ่งที่ยังคงสูตรในการทำแบบโบราณ บ้านหนองแช่ไม้ หมู่2 ต.สะเดา อ.นางรอง ร่วมสืบสานขนมโบราณพร้อมได้ทำ"ข้าวต้มด่าง"ให้ได้ทานกัน ดั้งเดิมเมื่อถึงเวลาจะมีงานบุญ หรือจะมีงานวัด ชาวบ้านเขาจะรวมตัวกัน ทำขนม ข้าวต้มด่าง หลายๆท่านคงจะได้เห็นจนชินตา แต่บางทีคนรุ่นหลังๆ อาจไม่ทราบว่ากว่าจะมาเป็นข้าวต้มด่าง เค้าทำกันอย่างไร ถือว่าเป็นของดี๋ เมืองนางรอง และจังหวัดอีสานใต้ก็ว่าได้
แถบอีสานใต้ของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์มีชุมชนหนึ่งที่ยังคงสูตรในการทำแบบโบราณ บ้านหนองแช่ไม้ หมู่2 ต.สะเดา อ.นางรอง ร่วมสืบสานขนมโบราณพร้อมได้ทำ"ข้าวต้มด่าง"ให้ได้ทานกัน ดั้งเดิมเมื่อถึงเวลาจะมีงานบุญ หรือจะมีงานวัด ชาวบ้านเขาจะรวมตัวกัน ทำขนม ข้าวต้มด่าง หลายๆท่านคงจะได้เห็นจนชินตา แต่บางทีคนรุ่นหลังๆ อาจไม่ทราบว่ากว่าจะมาเป็นข้าวต้มด่าง เค้าทำกันอย่างไร ถือว่าเป็นของดี๋ เมืองนางรอง และจังหวัดอีสานใต้ก็ว่าได้
วิธีการทำ จะใช้ข้าวเหนียว+น้ำด่าง สำหรับน้ำด่างทำด้วยเปลือกมะพร้าว เปลือกนุ่น และผักขมหนาม แต่ของนางรองจริงๆ แล้วข้าวต้มด่างจะใช้หญ้าพันงู ภาษานางรองเรียก ควยงู ที่นำไปเผาแล้วนำขี้เถ้าผสมน้ำ ต่อจากนั้นกรองเอาน้ำใส สำหรับส่วนผสมเสร็จเวลาห่อจะห่อด้วยใบกล้วย โดยห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมมัดรวมกันเป้นพวงๆ ต้มสุกก็แกะทานได้เลย บางทีเด็กๆจะชอบจิ้มกับน้ำตาล หรือนมเพื่อเพิ่มความหวาน ข้าวต้มด่างถืิอเป็นภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่าที่รู้จักการเก็บถนอมอาหารข้าวต้มด่างจึงสามารถเก็บไว้กินได้นาน ยังมีเคล็ดและเป็นความเชื่อสืบต่อกันมาว่า ที่ทำข้าวต้มด่างเป็นพวง เป็นการทำให้เกิดความรักสามัคคีปรองดอง อยู่รวมกันของครอบครัว และชุมชน
ขอบคุณข่าว/ภาพ "โอ๋" เฟส ไก่โจ้น โนนธัมโม