ภาคเอกชนขานรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนทั้งUAC-NER พร้อมเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเร่งด่วน (Quick Win) ดันโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส สำหรับก๊าซชีวภาพไทย ตามที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายรับซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าชุมชน ล่าสุดกระทรวงพลังงานได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชน เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าว มีทั้งโรงไฟฟ้าของบริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ซึ่งมีโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจำนวน 2 โรง กำลังการผลิตรวม 3 เมกะวัตต์ที่จังหวัดขอนแก่น และบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ซึ่งมีโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจำนวน 2 โรงที่บุรีรัมย์ กำลังการผลิตรวม 4 เมกะวัตต์
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)(NER) กล่าวว่า บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส 2 โรง รวม 4 เมกะวัตต์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้หญ้าเนเปียและมูลสัตว์เป็นเชื้อเพลิง โดยโรงแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จพ.ย.นี้ และโรงที่ 2 จะแล้วเสร็จ ธ.ค. 2562 เป็นโครงการที่เข้าข่ายโรงไฟฟ้าชุมชนเร่งด่วน(Quick Win) โดยบริษัทมีที่ดินปลูกหญ้าเนเปียร์อยู่แล้ว 1.2 พันไร่ และได้ส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ปลูกและรับซื้ออีก 400ไร่
"ในการจำหน่ายไฟฟ้านั้น ต้องมีการขออนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอีกหลายขั้นตอนและใช้เวลาดำเนินการอีกพอสมควร ซึ่งบริษัทได้เคยเดินเรื่องขอจำหน่ายไฟฟ้าไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ปรากฏได้รับแจ้งว่าจุดเชื่อมต่อและสายส่งในพื้นที่เต็มจำนวนจึงไม่ได้รับการอนุมัติให้ขายไฟฟ้า บริษัทจึงปรับแผนโดยการนำก๊าซชีวภาพที่ได้มาปั่นเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำไปใช้ในกิจการของบริษัท และในกระบวนการปั่นไฟนั้นจะได้พลังงานความร้อนจากเครื่องปั่นไฟอีกทางหนึ่งซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ทดแทนพลังงานความร้อนจากแหล่งพลังงานที่ต้องซื้อเข้ามา ส่งผลให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึงสองทางคือค่าพลังงานเชื้อเพลิงในการอบยางและค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในกิจการพร้อมกัน"นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยอีกว่า ผลประกอบการของ NER ในไตรมาส 3/62 คาดว่าจะดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และดีขึ้นจากไตรมาส 2/62 เนื่องจากราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรวม 255,000 ตัน จากเป้าหมายทั้งปีนี้ที่ 260,000 ตัน เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทมีลูกค้าใหม่ที่เริ่มซื้อขายเพิ่มเข้ามาอีกหลาย พร้อมกันนี้มีลูกค้ารายใหญ่ 2 รายพร้อมที่จะเซ็นสัญญา Long Term เมื่อโรงงานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ คือ Apollo Tyre ล่าสุดได้เข้ามาตรวจสอบคุณภาพโรงงานแล้ว ด้าน MICHELIN จะเข้ามาตรวจสอบคุณภาพโรงงานในเดือน พ.ย.นี้
***ซึ่งในส่วนของหญ้าเนเปียร์ นอกจากสามารถใช้เป็นพืชเชื้อเพลิงแล้ว ยังเป็นพืชอาหารสัตว์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีคุณค่าทางอาหารสูง เมื่อปลูกและมีการจัดการที่ดี หญ้าชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้เร็วให้ผลผลิตที่สูง เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และที่สำคัญเมื่อปลูกไปแล้วอายุของหญ้าเนเปียร์สามารถอยู่ได้นานถึง 5 ปี ทำให้การปลูกไม่จำเป็นต้องลงทุนในเรื่องของการซื้อต้นพันธุ์ใหม่ ถือเป็นการเพิ่มรายได้ที่น่าสนใจ
นายผจญ ศรีบุญเรือง นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซชีวภาพไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายรับซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าชุมชน ล่าสุดกระทรวงพลังงานได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชน เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน โดยสมาคมฯ เสนอโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพของสมาชิกที่เคยมีปัญหาไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้จำนวน 50 โรง คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดสมาคมฯได้ทำหนังสือสอบถาม พบว่ามีผู้ประกอบการตอบกลับมา 20 ราย คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 30-40 เมกะวัตต์ ที่มีความพร้อมร่วมโรงไฟฟ้าชุมชนแบบเร่งด่วน (Quick Win)