ขนส่งบุรีรัมย์ เข็นมินิบัสไม่เกิน 20 ที่นั่งนำร่องเปิดเส้นทางเดินรถโดยสารสายบุรีรัมย์-ช่องสายตะกู เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางท่องเที่ยวและติดต่อค้าขายตามบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมรองรับการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู เป็นด่านผ่านแดนถาวรในอนาคต
นายกฤษฎา สองเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดการเดินรถโดยสารประจำทางหมวด 4 จังหวัดบุรีรัมย์ สายที่ 1474 บุรีรัมย์-ช่องสายตะกู ของรถโดยสารประจำทางมินิบัส จำนวนไม่เกิน 20 ที่นั่ง เป็นเส้นทางแรกของ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเป็นการยกระดับเส้นทางการเดินรถ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านขนส่ง แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางสัญจรไปมาระหว่างตัวเมืองบุรีรัมย์ มายังจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเป็นด่านผ่านแดนถาวรในอนาคต โดยมีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ตำรวจ ทหาร ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน และผู้ประกอบการเดินรถร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน
นางผุสดี ศรีสกุลไทย ขนส่งจังหวัดชัยภูมิ รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ตามที่ จ.บุรีรัมย์ และภาคส่วนต่างๆ ได้มีการผลักดันจุดผ่อนปรนการค้าชานแดนไทย-กัมพูชา ช่องสายตะกู ให้เป็นด่านผ่านแดนถาวร และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับในทุกด้าน สำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ให้ความสำคัญที่ต้องการยกระดับเส้นทางการเดินรถ เพื่อให้บริการแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางสัญจรไปมาท่องเที่ยว และติดต่อค้าขายยังบริเวณชายแดน ได้รับความสะดวก สบาย และเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย จึงได้ร่วมกับบริษัท แสงสมชัย จำกัด ซึ่งเป็นได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ในเส้นทางการเดินรถโดยสารประจำทางหมวด 4 จ.บุรีรัมย์ สายที่ 1474 บุรีรัมย์-ละหานทราย โดยได้เพิ่มเส้นทางแยกช่วงบุรีรัมย์-สายตะกู รวมระยะทาง 82 กิโลเมตร
รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นทางผู้ประกอบการเดินรถ ได้จัดรถมินิบัสที่จะให้บริการเดินรถสายบุรีรัมย์-สายตะกูไว้จำนวน 2 คัน และในอนาคตจะเพิ่มจำนวนเป็น 6 คันจะเดินรถวันละ 4 เที่ยว โดยเริ่มเที่ยวแรกออกจากบุรีรัมย์ 08.00 น. เที่ยวต่อไปเวลา 10.00 น., 14.00 น. และเวลา 19.00 น.
ส่วนเที่ยวรถที่จะออกเดินทางจากช่องสายตะกู เริ่มเที่ยวแรกเวลา 08.00 น., เที่ยวต่อไปเวลา 11.00 น., 14.00 น. และเวลา 17.00 น.โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนอัตราค่าโดยสาร 85 บาท
ข่าวโดย ขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์