ข้อความจาก pantip.com
“ไทบ้านเดอะซีรี่ส์” ปรากฏการณ์ “ป่าล้อมเมือง” ในวงการบันเทิง
บางทีก็ยังงงอยู่ว่า “ไทบ้านเดอะซีรีส์” หนังไทยอีสาน ทำไมถึงดัง ปัง แบบฉุดไม่อยู่ขนาดนี้ ที่ภาคอีสานคนดูล้นโรงเต็มแทบทุกรอบ เวลานี้บุกมาตีตลาดเมืองกรุงเป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าจะตีตลาดไปทั่วประเทศแน่นอน ถ้าจะเรียกกลยุทธ์นี้ว่า ป่าล้อมเมือง ก็ไม่ผิด เพราะด้วยความเป็น “หนังไทยอีสาน” ที่พูดอีสานกันทั้งเรื่อง จึงเลือกทดลองตลาดระดับภูมิภาคก่อน ผลคือ ได้รับการตอบรับที่เกินความคาดหมาย ก็ได้เวลาไปล้อมเมืองกัน
เป็นแรงบันดาลใจให้คนทำหนังไทยเรื่องอื่น
ไทบ้านเดอะซีรีส์ อาจเป็นตัวอย่าง หรือแรงบันดาลใจให้กับหนังไทยเรื่องอื่นๆ ได้ด้วย ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณที่จำกัด เพียง 2 ล้านบาท (น้อยกว่างบการตลาดของหนังไทยหลายๆ เรื่องด้วย) หนังไม่ต้องเจาะตลาดแมส ฉายเมืองกรุง เพราะต้องต่อสู้กับ หนังฝรั่งที่ห้ำหั่นแย่งชิงรอบฉายกันสุดๆ และมีหนังเข้าใหม่เฉลี่ย 3-4 เรื่องทุกสัปดาห์
เรื่องจะใช้งบการตลาดเพื่อโปรโมทหนัง อย่าได้ฝันไป เพราะแค่งบการตลาดหนังไทยจากค่ายใหญ่ ก็เกินงบประมาณที่ใช้ทำ ไทบ้านเดอะซีรีส์ แล้ว
เมื่อไม่สามารถสู้รอบฉาย ไม่มีงบการตลาด การเริ่มฉายในภาคอีสาน และให้ตัวหนังทำหน้าที่โปรโมทตัวเอง จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
และการตลาดที่สุดยอดคือ “ปากต่อปาก” การบอกต่อของคนดู ถ้าหนังดีจริง จะรวดเร็วและรุนแรงมาก และจะสุดยอดสุดๆ เมื่อเกิดการบอกปากต่อปากบน “โลกโซเชียล”
เมื่อหนังดี กระแสแรง คนดูล้น สุดท้ายโรงหนังที่กรุงเทพ จะอยากได้หนังไปฉายเอง
ข้อความจาก matichonweekly.com
และแล้วก็เกิดปรากฏการณ์ “ป่าล้อมเมือง” ในวงการบันเทิงขึ้นอีกครั้ง ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในอดีตจะเป็นเรื่องเพลง อย่างเพลง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” ก็ใช่ ดังจากภาคอีสานมาก่อนแล้วค่อยมาดังในเมืองกรุง
แต่วันนี้ “ไทบ้านเดอะซีรี่ส์” กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการหนังไทยเป็นหนังไทยที่เริ่มต้นฉายในภาคอีสานก่อนแล้วเกิดกระแสระดับ “โรงแตก” จนค่ายเมเจอร์กับเอสเอฟต้องนำมาฉายใน กทม. ในสัปดาห์ต่อมาและขยายวงไปภาคตะวันออกและภาคเหนือคาดว่าอีกสักพักคงไปภาคใต้
“ไทบ้านเดอะซีรี่ส์” เป็นหนังที่ใช้เงินลงทุนต่ำ ขอโทษ…ต่ำมาก ตามปกติหนังทั่วไปจะใช้งบฯ ลงทุนไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท แต่เรื่องนี้ใช้เงินแค่ 2 ล้านกว่าบาทเท่านั้นเองครับ “ไทบ้านเดอะซีรี่ส์” เป็นหนังวัยรุ่นที่พูดภาษาอีสานทั้งเรื่องครับ มีซับไตเติลเป็นภาษากลาง ฉาย 4 วันในภาคอีสานได้เงิน 8 ล้านกว่าบาท
เข้า กทม. วันแรกได้เงิน 4 แสนบาท วันที่สอง 9 แสนบาท จากเดิมที่โรงยักษ์ใหญ่จะเปิดให้ฉายแค่ 4 วัน
ตอนนี้ขยับเป็น 3 สัปดาห์แล้ว และขยายโรงเพิ่มเป็นเท่าตัว นี่คือ “ความแรง” ของหนังจากแดนที่ราบสูง
เขาเจาะกลุ่มเป้าหมายชัดเจนคือ คนอีสาน ประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
...........................
ขอบคุณภาพประกอบ isaanrecord.com
