เย็นวันนี้(24/5/64)ได้มีโอกาสกลับมารายการ ร้องเพลงให้หายคิดถึง ในภาพของคุณหมอแบบสมบูรณ์แบบ จบหมอเรียบร้อยแล้ว แบ่งเวลามาร้องเพลงให้ได้ฟังในรายการ ดวลเพลงชิงทุน
สิ้นสุดวันรอคอย !! วันนี้พบกับแชมป์ 20 สมัย คนแรกของดวลเพลงชิงทุน #หมอปุ๊ก #บุรีรัมย์ ที่สามารถคว้าเงินไปปลูกบ้านให้คุณแม่ได้สำเร็จ
จากความกตัญญู นำพาสิ่งดีๆสู่ชีวิต เย็นนี้พบกัน เวลา 18.00 น. ทาง #ช่องวัน31
รับชม ดวลเพลงชิงทุน ตอนพิเศษ "รวมแชมป์ 20 สมัย" รวมการแข่งขันสุดเผ็ดมัน ดุเดือด หลากหลายอารมณ์ให้ได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม พร้อมกับโชว์สุดพิเศษจากศิลปินขวัญใจมหาชนอีกมากมาย
จากเป็นที่กล่าวถึงในโลกโซเชียล นักร้องเสียงดี ว่าที่คุณหมอ "น้องปุ๊ก" บ้านกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ สามารถชนะติดต่อกันมา 20 สมัย** คนแรกของรายการด้วยความตั้งใจจะซ่อมแซมบ้านให้แม่ แข่งขันในรายการ ดวลเพลงชิงทุน ทางช่อง ONE 31 และทุกครั้งจะมีข้อคิดดีๆเสมอ ครั้งหนึ่งน้องกล่าวว่า ไม่อยากมองว่ามารายการนี้แข่งขัน แต่มาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต บางครั้งรางวัลที่ได้มายังแบ่งปันผู้เข้าร่วมแข่งขันน้องปุ๊กยังคิดเสมอว่า การให้โอกาสคนอื่นๆ เหมือนตัวหนูเองได้รับ โอกาสดีๆแบบนี้ขอส่งต่อโอกาสให้กับน้อง โดยมอบเงินจากแข่งขันแบ่งน้องฟ้า สาวน้อยจากบุรีรัมย์ 10,000 บาท กลางรายการ เป็นที่ประทับใจต่อคณะกรรมการ และผู้ชมทั่วประเทศ นี่เป็นเพียงตัวอย่างประทับใจช่วงที่แข่งขันในรายการ
จบการแข่งขันคว้าแชมป์ 20 สมัยพร้อมรับเงิน รางวัล ได้นำเงินมาสร้างบ้านหลังใหม่แทนบ้านหลังเก่า ที่ผุพังหลังคารั่ว ยอดกตัญญูส่งผลให้วันนี้จบแพทย์แบบเต็มภาคภูมิ 
รู้จักน้องมากขึ้น
ในวันนั้นวงดนตรีวงลูกทุ่งทิวสน โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคมตั้งแต่ ม.1-ม.6 มีนักร้องที่โดดเด่นคนหนึ่ง" น้องปุ๊ก ในช่วงนั้นทั้งเรียนและ "เดินสายประกวด-วนเวียนในสายเวทีสตริงคอมโบระดับมัธยม แต่น้องก็ไม่เคยทิ้งการเรียน แม้จะต้องแบ่งเวลาในการซ้อมดนตรี และก็ทำได้ดี จนน้องปุ๊กสามารถก็สามารถสอบติดแพทย์มหิดล และศึกษาอยู่ในทุกวันนี้ แต่ด้วยในหัวใจมีแต่เสียงเพลงจึงไม่ทิ้งความฝันในการเป็นนักร้อง เวลาว่างจากเรียนแพทย์ยังหาโอกาสประกวดในเวทีต่างๆ เคยออกรายการกิ๊ก-ดู๋ประชันเสียงดี มาประกวดรายการชุมทางดาวทอง น้องปุ๊กก็สามารถชนะและได้เป็นแชมป์ชุมทางดาวทอง บอกว่าไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ เล่าให้ฟังว่าที่ทำให้มาเรียนหมอ เนื่องจากคุณพ่อป่วย ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ เวลาเราไปเยี่ยมจะเห็นการทำงานของคุณหมอ เลยเกิดเป็นแรงบันดาลใจขึ้นมาว่าเราไม่อยากเป็นแค่คนดูแลพ่อแม่ยามเจ็บป่วยเท่านั้นแต่อยากเป็นคนที่สามารถรักษาท่านได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่คุณพ่อไม่อยู่รอให้เราได้รักษา ท่านจากเราไปตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ม.4 พอขาดเสาหลักของครอบครัว ชีวิตความเป็นอยู่ก็ลำบากขึ้นกว่าเดิม จากที่เราเคยเรียนหนังสือเฉยๆ ก็ต้องช่วยแม่ทำงาน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็เร่ขายลูกชิ้น ปิ้งข้าวโพด เผือก มัน ขายบ้าง พอเรียนอยู่ ม.6 ก็ได้ทำงานหารายได้พิเศษก็พอสบายขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง คือ สอนพิเศษ จริงๆ ก็คิดว่าไม่ได้ลำบากขนาดนั้นนะคะ แต่ตอนนั้นคิดไว้ว่า เราจะอยู่แบบนี้ตลอดไปไม่ได้ อยากทำให้คนข้างหลังสบายไม่ต้องลำบากแบบนี้ สิ่งเดียวที่คิดได้ตอนนั้นคือตั้งใจเรียน เพราะรากฐานที่มั่นคงของคนอยู่ที่การศึกษา เราเลยต้องขยันให้มากที่สุด ตอนมัธยมเป็นเด็กกิจกรรมด้วยค่ะ ชอบร้องเพลงเลยเป็นตัวแทนของโรงเรียนประกวดร้องเพลงตามงานต่างๆ ทุกปีตั้งแต่อยู่ ม.1-ม.6 พยายามเรียนไปด้วยทำกิจกรรมไปด้วย ไม่เหนื่อยเลยค่ะ เป็นสิ่งที่เรารักทั้งสองอย่าง เลยพยายามทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด อยากเป็นแบบอย่างหรือแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้บ้างไม่มากก็น้อย สิ่งที่ภาคภูมิใจตอนเรียนอยู่มัธยม คือการได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้ารับประเมินนักเรียนรางวัลพระราชทานตอนอยู่ ม.6 เหมือนกับว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งหมด คุณครูเชื่อใจเรา และสามารถเป็นแรงบันดาลใจเป็นแบบอย่างให้น้องๆ ได้แล้ว
ชื่อจริง : ณัฐริดา บรรเทิงใจ ชื่อเล่น : ปุ๊ก
ในวันนั้นวงดนตรีวงลูกทุ่งทิวสน โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคมตั้งแต่ ม.1-ม.6 มีนักร้องที่โดดเด่นคนหนึ่ง" น้องปุ๊ก ในช่วงนั้นทั้งเรียนและ "เดินสายประกวด-วนเวียนในสายเวทีสตริงคอมโบระดับมัธยม แต่น้องก็ไม่เคยทิ้งการเรียน แม้จะต้องแบ่งเวลาในการซ้อมดนตรี และก็ทำได้ดี จนน้องปุ๊กสามารถก็สามารถสอบติดแพทย์มหิดล และศึกษาอยู่ในทุกวันนี้ แต่ด้วยในหัวใจมีแต่เสียงเพลงจึงไม่ทิ้งความฝันในการเป็นนักร้อง เวลาว่างจากเรียนแพทย์ยังหาโอกาสประกวดในเวทีต่างๆ เคยออกรายการกิ๊ก-ดู๋ประชันเสียงดี มาประกวดรายการชุมทางดาวทอง น้องปุ๊กก็สามารถชนะและได้เป็นแชมป์ชุมทางดาวทอง บอกว่าไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ เล่าให้ฟังว่าที่ทำให้มาเรียนหมอ เนื่องจากคุณพ่อป่วย ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ เวลาเราไปเยี่ยมจะเห็นการทำงานของคุณหมอ เลยเกิดเป็นแรงบันดาลใจขึ้นมาว่าเราไม่อยากเป็นแค่คนดูแลพ่อแม่ยามเจ็บป่วยเท่านั้นแต่อยากเป็นคนที่สามารถรักษาท่านได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่คุณพ่อไม่อยู่รอให้เราได้รักษา ท่านจากเราไปตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ม.4 พอขาดเสาหลักของครอบครัว ชีวิตความเป็นอยู่ก็ลำบากขึ้นกว่าเดิม จากที่เราเคยเรียนหนังสือเฉยๆ ก็ต้องช่วยแม่ทำงาน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็เร่ขายลูกชิ้น ปิ้งข้าวโพด เผือก มัน ขายบ้าง พอเรียนอยู่ ม.6 ก็ได้ทำงานหารายได้พิเศษก็พอสบายขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง คือ สอนพิเศษ จริงๆ ก็คิดว่าไม่ได้ลำบากขนาดนั้นนะคะ แต่ตอนนั้นคิดไว้ว่า เราจะอยู่แบบนี้ตลอดไปไม่ได้ อยากทำให้คนข้างหลังสบายไม่ต้องลำบากแบบนี้ สิ่งเดียวที่คิดได้ตอนนั้นคือตั้งใจเรียน เพราะรากฐานที่มั่นคงของคนอยู่ที่การศึกษา เราเลยต้องขยันให้มากที่สุด ตอนมัธยมเป็นเด็กกิจกรรมด้วยค่ะ ชอบร้องเพลงเลยเป็นตัวแทนของโรงเรียนประกวดร้องเพลงตามงานต่างๆ ทุกปีตั้งแต่อยู่ ม.1-ม.6 พยายามเรียนไปด้วยทำกิจกรรมไปด้วย ไม่เหนื่อยเลยค่ะ เป็นสิ่งที่เรารักทั้งสองอย่าง เลยพยายามทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด อยากเป็นแบบอย่างหรือแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้บ้างไม่มากก็น้อย สิ่งที่ภาคภูมิใจตอนเรียนอยู่มัธยม คือการได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้ารับประเมินนักเรียนรางวัลพระราชทานตอนอยู่ ม.6 เหมือนกับว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งหมด คุณครูเชื่อใจเรา และสามารถเป็นแรงบันดาลใจเป็นแบบอย่างให้น้องๆ ได้แล้ว
น้องปุ๊กยังเล่าให้ทีมงานฟังต่อว่า ด้วยความที่เราชอบร้องเพลงอยู่แล้ว ระหว่างเรียนอยู่ในกรุงเทพฯ ถ้าหากว่ามีเวลาว่างเราก็หาโอกาสประกวดร้องเพลง คนเสียงดีเยอะมากๆ ตอนแรกๆ ประกวดไปก็ไม่ค่อยชนะ ทั้งๆ ที่คิดว่าเราก็ร้องดีอยู่นะ 555 จริงๆ ไม่ใช่เลย มีข้อบกพร่องที่ต้องเติมเต็มแก้ไขอยู่อีกมาก เราก็พยายามปรับให้ดีที่สุด ไปประกวดรายการชุมทางดาวทอง เราก็ชนะมาได้เป็นแชมป์ชุมทางดาวทอง รุ่นดาวทอง ฤดูกาลที่ 2 ได้รางวัลที่น่าภาคภูมิใจมากๆ ที่สำคัญกว่านั้นคือได้มีเพลงของตัวเอง (ถือเป็นความฝันสูงสุดตอนเด็กๆ เลยนะเนี่ย) คือเพลงจันทร์ไม่เคยห่างไกล และแชมป์ล่าสุดรายการดวลเพลงชิงทุน 20 สมัยเป็นคนแรกของรายการ ได้รางวัลมาสร้างบ้านให้คุณแม่สำเร็จเรียบร้อย ยังไงก็ฝากติดตามผลงานต่อไปด้วยนะคะ...หมอปุ๊ก ฝากทิ้งท้าย
..........................
ประถม : ตอนต้นโรงเรียนบ้านกระสัง(หรุ่นราษฎร์รังสรรค์) ประถมตอนปลาย เรียนโรงเรียนเทศบาล 3
..........................
มัธยม : โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม
..........................
ปัจจุบันจบแพทย์ : มหาวิทยาลัยมหิดล หลักสูตร แพทยศาสตรบัณฑิต โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ติดตาม และส่งกำลังให้ หมอปุ๊ก Natarida Bunterngjai
ประถม : ตอนต้นโรงเรียนบ้านกระสัง(หรุ่นราษฎร์รังสรรค์) ประถมตอนปลาย เรียนโรงเรียนเทศบาล 3
..........................
มัธยม : โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม
..........................
ปัจจุบันจบแพทย์ : มหาวิทยาลัยมหิดล หลักสูตร แพทยศาสตรบัณฑิต โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ติดตาม และส่งกำลังให้ หมอปุ๊ก Natarida Bunterngjai
ขอบคุณ รายการ เพลงชิงทุน จ-ศ 18.00 น. ช่องONE 31
เรื่องราวโดย Nuch Ployphet facebook.com/nuch.ployphet
