จากการสืบค้นข้อมูล ในหลายๆ เส้นทางที่ทาสีลักษณะเดียวกัน เหตุผลหลัก เพื่อลดอุบัติเหตุ ที่จุดที่เกิดขึ้นซ้ำบ่อยๆ หรือจุดที่เสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุ
กับคำถามเกิดขึ้นตามมาคือ ทำไมถึงต้องทาสีแดงลงบนพื้นถนนแล้วมีความหมายว่าอย่างไร และจะช่วยลดอุบัติเหตุได้จริงหรือ
จากการเปิดเผยของกรมทางหลวง ถนนหลายๆ เส้น ที่มักเกิดอุบัติเหตุ หรือโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยที่ผ่านมาได้แก้ปัญหาด้วยการติดตั้งจุดสังเกตไว้ริมทาง เช่น ป้ายลดความเร็ว ป้ายห้ามขับเกิน 40 กม.ต่อชั่วโมง ป้ายระวังถนนลื่น แต่ก็ไร้ผล ทางเลือกนี้จึงเกิดขึ้น ใช้วิธีทาสีลงบนพื้นถนน เพื่อให้ผู้ขับขี่รถสัญจรผ่านไปมารู้สึกสะดุดตายิ่งขึ้น
ส่วนสีที่ใช้ทามีลักษณะพิเศษคือ สีโคลด์พลาสติกแอนตี้สคิด ผสมกับลูกแก้ว เมื่อผู้ขับขี่รถผ่านมาในเวลากลางคืน แสงไฟจากรถจะส่องกระทบพื้นและจะมีแสงระยิบระยับสะท้อนให้เห็นชัดเจน ขณะเดียวกันยังมีแรงเสียดทาน ทำให้ยางรถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นด้วย
ความรู้สึกของผู้ใช้ถนนหลายๆ เส้นทางที่ผ่านมา
ไม่ใช่แค่ทาสี
วัสดุที่ใช้ปูแพงนะครับ
จะใช้ตรงทางโค้งเพื่อให้ถนนฝีด
ช่วยป้องกันรถลื่นไถล
เอาไว้เพิ่มแรงเสียดทาน ในที่ที่ลื่น หรือโค้งที่อาจเกิดอันตราย หลุดโค้งได้
ขับไปบนพื้นแดงนั้น จะรู้สึกได้เลยว่าหนึบโคตรๆ เกาะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สีแดง เป็นสีที่เตือนได้ดี ว่าอันตราย อย่าขับเร็ว โปรดระวัง
มีคนเคยถามในสาระคดีต่างประเทศว่าหากมันกันลื่นดี ทำไมไม่ปูทั้งถนน
คำตอบคือ มันกินผิวยางรถมาก หากปูทั้งถนน จะทำให้ยางรถใหม่ๆดอกหมดภายในไม่กี่เดือน
ใครผ่านไปเที่ยวก็จะได้เห็น หลายท่านอดใจไม่ได้ อยากลงมาลองสัมผัส หรือถ่ายภาพ คำเตือน ช่วงที่ทาสีเป็นช่วงทางโค้งชัน และมุมมองของผู้ขับขี่แคบในการมองเห็น อาจเกิดอุบัติเหตุ โปรดระมัดระวังกันมากๆ
ขอบคุณภาพ จากแฟนเพจ
